ประวัติสำนักฯ
ปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยม
ทิศทางการนำองค์กร
Naetc virtual tour 
การจัดการความรู้ KM
บทความน่าสนใจ
สำนักงานสีเขียว (Green Office)
งานฝึกอบรม (NExT ACADEMY)
บริการห้องพัก ห้องอบรม
บริการผลิตสื่อ
บริการจัดสวนและปรับปรุงภูมิทัศน์ประวัติความเป็นมา
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับการสถาปนาเมื่อปีพ.ศ.2486 ทำหน้าที่จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา โดยมีการให้บริการทางวิชาการแก่สังคม เป็นภารกิจหนึ่งของมหาวิทยาลัยฯ ที่มีความสาคัญ ทั้งนี้เพราะมหาวิทยาลัยฯ เป็นแหล่งความรู้ที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ สมควรที่จะเผยแพร่องค์ความรู้เหล่านั้นสูประชาชน สู่สังคม ให้เกิดประโยชน์ในการดำรงชีพในการเผยแพร่ความรู้ สู่ประชาชนได้ทำกันหลายรูปแบบต่อเนื่องกันมาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดที่ทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง
ดังนั้น ในปีพ.ศ.2502 มหาวิทยาลัยฯ จึงได้เริ่มจัดตั้งหน่วยงานภายในขึ้นเรียกว่า สำนักส่งเสริมและเผยแพร่การเกษตร มารับผิดชอบงานด้านการให้บริการวิชาการแก่สังคม
จัดตั้งสำนักส่งเสริมและฝึกอบรม
จึงได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี จัดตั้งสำนักส่งเสริมและฝึกอบรม เป็นหน่วยงานเทียบเท่าคณะ เพื่อทำหน้าที่ให้บริการวิชาการแก่สังคม
จัดแบ่งการบริหารงานภายในออกเป็น 5 งาน ประกอบด้วย
1.สานักงานเลขานุการ
2.งานวิชาการและวิจัย
3.งานส่งเสริมและเผยแพร่
4.งานสื่อการศึกษา
5.งานสถานีวิทยุ มก.
การพัฒนาเป็นศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ
ในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2520-2524 รัฐบาลไทยได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่นแบบให้เปล่าในการพัฒนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในวงเงิน 166 ล้านบาทใช้ในการก่อตั้งหน่วยงานของสำนักส่งเสริมและฝึกอบรม ที่วิทยาเขตกำแพงแสน โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2524 ให้ใช้ชื่อว่า ศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ (National Agricultural Extension and Training Center) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 58 ไร่ประกอบด้วย อาคารบริหาร อาคารสื่อการศึกษา อาคารโรงพิมพ์ อาคารฝึกอบรม อาคารโรงอาหาร และอาคารตึกพัก(จานวน 4 หลัง) ทำให้งานบริการทางวิชาการของสำนักส่งเสริมและฝึกอบรม และของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นไปอย่างกว้างขวางและเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปทั้งภายในและต่างประเทศ ในขณะนั้นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้ข้าราชการและลูกจ้างของสำนักส่งเสริมและฝึกอบรมไปประจำวิทยาเขตกำแพงแสน ตามคำสั่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่721/2524 ลงวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2524 จานวน 17 คน โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ พุม ขาเกลี้ยง ดำรงตำแหน่งหัวหน้าศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ
พิธีลงนามมอบอาคารศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ
ในวันที่ 19 มิถุนายน 2524 เป็นวันส่งมอบและรับมอบอาคาร ณ ห้องประชุมใหญ่(ปัจจุบันห้องต้นตาล) ของศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่น พร้อมด้วย ม.จ.จักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศาสตราจารย์ ดร.ไพฑูรย์ อิงคสุวรรณ อธิการบดีดร.วัฒนา เสถียรสวัสดิ์ รองอธิการบดีวิทยาเขตกำแพงแสน รองศาสตราจารย์ พร สุวรรณวาจกกสิกิจ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและฝึกอบรม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พุม ขำเกลี้ยง รองผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและฝึกอบรม ได้มาร่วมพิธีลงนามโดยมีเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยลงนามมอบอาคารให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์โดยมี ม.จ.จักรพันธ์เพ็ญศิริจักรพันธุ์นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นผู้รับมอบ และ Mr.Koji Kastuta ผู้แทนบริษัทก่อสร้าง (Takenaka Komuten Co.Ltd.) เป็นผู้มอบกุญแจMaster Keyให้กับนายกสภาที่มอบและรับ ต่อจากนั้นเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นกล่าวมอบอาคาร นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กล่าวขอบคุณ
โครงสร้างการบริหารงาน 5 ฝ่าย
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีนโยบายให้วิทยาเขตกำแพงแสนมีโครงสร้างและระบบการบริหารที่เบ็ดเสร็จ มีการจัดการและบริหารทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพมุ่งสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ ด้านการเกษตร เพื่อเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคตะวันตกโดยเน้นพื้นที่บริเวณลุ่มน้ำแม่กลองสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จึงได้อนุมัติให้จัดตั้ง สำนักส่งเสริมและฝึกอบรมกำแพงแสน เป็นหน่วยงานเทียบเท่าคณะ เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2548 และได้ตัดโอนอัตรากำลังข้าราชการจำนวน 37 อัตรา พนักงานมหาวิทยาลัย จำนวน 1 อัตรา และลูกจ้างประจำ จำนวน 25 อัตรา มาสังกัดสำนักส่งเสริมและฝึกอบรม กำแพงแสน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 และมีการแบ่งหน่วยงานภายในเป็น 8 ฝ่าย ประกอบด้วย 1.ฝ่ายบริหารและธุรการทั่วไป 2.ฝ่ายส่งเสริมและเผยแพร่ 3.ฝ่ายฝึกอบรม 4.ฝ่ายการพิมพ์ 5.ฝ่ายพัฒนาสื่อการส่งเสริม 6.ฝ่ายสื่อสารการตลาด7.ฝ่ายการศึกษา 8.ฝ่ายวิจัยและพัฒนา
ปัจจุบัน สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม กำแพงแสน ได้ขออนุมัติปรับโครงสร้างการบริหารงานจาก 8 ฝ่าย เหลือ 5 ฝ่าย โดยสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้อนุมัติตามมติที่ประชุมครั้งที่ 9/2552 เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ.2552 โดยแบ่งเป็น 5 ฝ่าย ประกอบด้วย
1.สำนักงานเลขานุการ 2.ฝ่ายส่งเสริมเผยแพร่และฝึกอบรม 3.ฝ่ายสื่อการส่งเสริม4.ฝ่ายสื่อสารการตลาด 5.ฝ่ายการศึกษา วิจัยและพัฒนา
